ฝีดาษลิง โรคติดต่อจากลิงสู่มนุษย์ หรือเรียกโรคฝีดาษวานร เป็นโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อไวรัส มีอาการคล้ายกับกับไข้ทรพิษแต่ว่าความรุนแรงที่เกิดโรคจะน้อยกว่า โรคนี้ต้นกำเนิดเกิดมาจากลิงที่ป่วย และติดเชื้อจากลิงมาสู่คนเป็นครั้งแรกในปี 2513 ที่ประเทศคองโก หรือจะพบอาการติดเชื้อของโรคนี้แถวอัฟริกาตะวันตกและอัฟริกากลาง ซึ่งปัจจุบันพบการระบาดใหม่ในประเทศบนทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรปเป็นส่วนใหญ่ แต่มีการค้นพบของโรคไม่ใช่แค่ในลิงเท่านั้น ยังมีสัตว์ฟันแทะ เช่น กระต่าย กระรอก เป็นต้น แต่การกระจายของโรคสู่คนยังไม่เป็นวงกว้างมากนักหากเทียบกับโรคระบาดอย่างโควิด-19 อ่านบทความอื่น ๆ เรื่องของสุขภาพที่นี่

อาการของโรค ฝีดาษลิง และอาการที่ควรเฝ้าระวัง
- หากได้รับเชื้อแล้ว จะแสดงอาการประมาณภายใน 7-14 วัน
- จะมีไข้ ปวดหัว ร่างกายอ่อนเพลีย ในบางรายมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
- มีอาการต่อมน้ำเหลืองโตได้ในบางราย เช่นเดียวกัน
- หลังจากที่ไข้แล้ว ภายใน 3 วัน จะมีอาการคล้ายผื่นขึ้นตามตัว หรือมีตุ่มนูนแดง ภายในตุ่มจะมีน้ำใสอยู่ภายใน จะทำให้ผู้ที่ป่วยแสบร้อนและคันตามตุ่ม
- เมื่อตุ่มใสกลายเป็นหนองจะแตกออกและแห้งไปเอง
- บางรายอาจมีอาการท้องเสีย เจ็บคอ ไอ หอบเหนื่อย อาเจียน ร่วมด้วย
- หากบางรายที่ร่างกายภูมิคุ้มกัยต่ำ หรือมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอาจส่งผลให้ช็อคและเกิดอาการที่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เหมือนกัน
- ระยะในการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น สามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่มีไข้ไปจนถึงตุ่มหนองแตก แผลแห้ง ระยะแพร่เชื้อจึงหมดลงนั่นเอง

การป้องกันโรคและข้อควรระมัดระวัง
- หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และหากสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งต่าง ๆ ต้องล้างมือด้วยสบู่และแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ทานอาหารที่สะอาดและปรุงสุกทุกครั้ง
- สวมหน้ากาอนามัยทุกครั้งที่อยู่ในเขตชุมชนหรือสถานที่เบียดเสียดแออัด
- การฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ด้วย
- ควรหลีกเลี่ยงหรือห้ามสัมผัสกับผู้ป่วยหรือสัตว์ที่อาจจะเป็นพพาหะของโรค
- หากเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงของโรค ฝีดาษลิง ให้คอยสังเกตุอาการ 7-14 วัน หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางทันทีขอบคุณบทความอ้างอิงจาก
โรงพยาบาลเปาโล